Sunday, March 18, 2007

สงบศึก และ สงบสุข...

วันนี้ผมก็ยังคงมาแปลกเช่นเดิม ในหัวข้อเรื่อง "สงบสุข และ สงบศึก" เนื่องจากอยากชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้สงครามสงบศึก และใช้การปกครองเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข...

คำสองคำนี้มาจากคัมภีร์จีนสมัยโบราณที่ยังมีการสู้รบกันเพื่อชิงความยิ่งใหญ่ และชิงแผ่นดินกัน ทำให้เกิดกลียุค บ้านเมืองระส่ำระสาย ประชาชนต้องเดือดร้อน ขาดความแน่นอนในการมีชีวิตอยู่ จะตายวันตายพรุ่งก็มิอาจจะรู้ได้...

เนื่องจากเป็นคัมภีร์สมัยโบราณ ซึ่ง ไม่เหมาะกับยุค อิสรภาพและเสรีภาพอย่างเช่นทุกวันนี้ แต่เชื่อผมเถอะว่า ลึกๆ แล้วมนุษย์เรามีกิเลสตัณหาอยู่ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่เชื่อเลยว่า โลกนี้จะมีคำว่า "สันติภาพ"เกิดขึ้นได้... และเราก็จำเป็นต้องเรียนรู้จากอดีต เพื่อนำมาเป็นบทเรียนและแก้ไขในสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ทำผิดพลาด...

คำว่า"สงบศึก"นั้น คือ การให้ผู้ที่มีความสามารถ ใช้ความรุนแรง การใช้กำลัง อาจเป็นอาวุธ การทหาร ยึดหลักยุทธศาสตร์และพิชัยสงครามที่พลิกแพลงเพื่อพิชิตและยุติสงคราม...

ไม่มีบ้านเมืองใดในโลกนี้ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ที่ไม่เคยก่อสงครามเพื่อสร้างประเทศของตนเลย เช่น สมัยกรีก ก็มีการสู้รบระหว่างแคว้นข้างเคียง เอคงความเป็นชนชาติของตนเองไว้ สมัยโรมัน ชาวโรมันก็ต้องลุกขึ้นต่อกรกับทรราชย์ สถาบันกษัตริย์โดย เรมุส-โรมิลุส จนเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในโลก หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกา เองก็ต้องทำสงครามชิงดินแดน ก่อนที่จะเป็นประเทศมหาอำนาจอย่างทุกวันนี้...

เปรียบได้กับธรรมชาติ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะได้ทราบกันดีว่า โลกเราเคยผ่านยุคน้ำแข็งมาหลายยุคแล้ว ยุคน้ำแข็งที่ว่าก็คือการลงโทษโดยธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีทั้งหลาย กลับมาสู่ความเป็นปกติ...หากไม่มียุคน้ำแข็งที่ปกคลุม และเสมือนล้างโลกใหม่แล้ว โลกก็คงจะเสื่อมทรามลงกว่าที่เห็นมาก...

ส่วนคำว่า "สงบสุข"นั้น คือ การให้ผู้ที่มีทั้งสติปัญญาและคุณธรรมสูง ใช้กุศโลบายทางการเมืองการปกครอง ปกครองประชาชนให้มีความสงบสุขสืบไป...

หลายคนคงเคยได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับสมัยก่อนที่มีกฎหมายการปกครองที่เข้มงวดมาบ้าง ซึ่งจะยกตัวอย่าง
ถึงบุคคลของจีนท่านหนึ่ง ชื่อว่า ชานยาง ต่อมาได้ตั้งชื่อเมืองเป็นเกียรติกับคนๆ นี้ว่า เมือง เซียงหยาง...ชานยางได้ใช้กฎหมายปฎิรูปของเขาเอง ทำให้ภายในประเทศไม่มีโจรผู้ร้าย ราษฎรทุกคนขยันขันแข็ง มีระเบียบวินัย ข้าวเปลือกเต็มยุ้งฉาง กองทัพเข้มแข็งมีกำลังเกรียงไกร...

แต่ด้วยความที่ ชานยาง เป็นคนที่หยิ่งผยอง สร้างความแค้นไว้กับคนมากมาย ไม่ได้ปกครองบ้านเมืองด้วยคุณธรรม จนเมื่อสิ้นวาสนาเปลี่ยนแผ่นดิน ได้ถูกจับมาลงโทษโดยการใช้ ห้าม้าแยกร่าง...

สรุปแล้ว ต้องใช้สงคราม เพื่อ สงบศึก จากนั้น จึงใช้ผู้ที่มีปัญญาและคุณธรรม ปกครองบ้านเมืองนั้นให้ สงบสุข ต่อไป...

ซุนวู ปฐมาจารย์แห่งพิชัยสงครามจีนนั้น ก็ไม่ได้ต้องการให้มีสงครามฆ่าฟันกัน แต่ด้วยความจำเป็นของยุคนั้น ทำให้ต้องเขียนตำราพิชัยสงคราม 13 บท ให้กับเจ้าเมืองเพื่อนำไปยุติสงครามระหว่างแคว้น...

แต่บ้านเมืองยุคนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากยุคโบราณมาก...แต่อย่างน้อยหวังว่าจะได้เห็นคุณค่า คำของคนโบราณ ซึ่งน่าคิด และได้สอนไว้ให้กับคนรุ่นหลัง ได้นำไปคิด ปรับใช้ ให้เหมาะกับยุคสมัยต่อไป...

วันนี้เขียนเครียดนะครับเนี่ย...ทำให้อ่านแล้วไม่สนุกเอาซ่ะเลย...งั้นพอแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ...ขอให้ทุกคนที่อ่านมีความสุขครับ...เอิ๊กๆๆ...
By.gazebosky

No comments: