Tuesday, March 20, 2007

300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก...

อีกหนึ่งในหนังดีในเวลานี้ครับกับ "300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก" ที่เล่าขานย้อนไปถึงความโหดร้ายแห่ง สงครามเธอร์โมไพเล (Thermopylae)ซึ่งกษัตริย์ เลโอนิดาส์ (เจอราร์ด บัทเลอร์) และกองทัพสปาร์ตัน 300 นายพลีชีพในการต่อสู้กับ เซอร์เซส (Xerxes)และกองทัพมหึมาแห่งเปอร์เซีย ในการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีกำลังท่วมท้น กำลังใจและการเสียสละของพวกเขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวกรีกทั้งมวลในการร่วมกันต่อสู้กับกองกำลังข้าศึกชาวเปอร์เซีย การขีดเส้นบนผืนทรายเพื่อประชาธิปไตย ...

ตอนนี้ผมก็โหลดหนังซูมมาดูเรียบร้อยแล้ว ด้วยที่ความอยากดูเอามากๆ แต่หนังที่โหลดมานั้น ภาพอภิมหาบรมห่วยแตกสิ้นดีเลยเชียว...แต่ไม่เป็นไรครับอีกไม่กี่วันผมก็จะไปเชียงใหม่อยู่แล้ว ถือว่ามาดูเรียกน้ำย่อยก่อนแล้วกัน แล้วค่อยไปดูอีกทีในโรงภาพยนตร์...

มาถึงประวัติศาสตร์จริงกันบ้าง ซึ่งผมจะกล่าวถึงชาวสปาร์ต้า และ สงครามเธอร์โมไพเล ในหน้าประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้เป็นเกร็ดความรู้ก่อนไปดูหนังจริงซักเล็กน้อยนะครับ...

สปาร์ต้าเป็นนครรัฐแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของแหลมกรีก เนื่องจากชาวสปาร์ต้ามีดินแดนของตนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจึงทำให้ผลิตอาหารไม่ได้เพียงพอกับความต้องการ ชาวสปาร์ต้าจึงจำเป็นจะต้องมีกองทัพที่เข็มแข็งไปเพื่อขยายดินแดนหาอาหารเลี้ยงคนทั้งประเทศ และยึดครองทาสมาใช้เป็นแรงงาน...

เด็กผู้ชายชาวสปาร์ต้านั้นเมื่ออายุได้ 7 ขวบ จะต้องถูกนำมาฝึกทหารเพื่อศึกษาวิชาป้องกันตัวเอง ฝึกฝนให้มีร่างกายที่แข็งแรง ให้มีความอดทนต่อสภาวะที่ทุกข์ยาก แต่หากพบว่าครอบครัวใดมีเด็กพิการล่ะก็ จะต้องถูกจับสังหารทิ้งทันที และเมื่อเด็กอายุ 18-30 ปี จึงจะถูกส่งเข้าไปยังกองทัพเพื่อเข้าฝึกวิชาทหาร ด้วยเหตุนี้กองทัพสปาร์ต้าจึงเข็มแข็งที่สุดในกรีก...

สปาร์ต้านั้นมีพลเมืองประมาณ 10,000 คน และปกครองรัฐด้วยกิจการทางทหาร กองทัพสปาร์ต้ามักจะไม่ออกไปนอกดินแดนของตนเนื่องจากกลัวว่าพวกทาสจะก่อการกบฎ เนื่องจากการใช้แรงงานทาสที่หนักนั่นเอง...สปาร์ต้ามีระบบการปกครองที่ประกอบด้วยกษัตริย์ 2 พระองค์ ปกครองร่วมกัน มีรัฐสภาผู้เฒ่า และสมัชชาประชาชน แต่สมัชชาไม่ได้แสดงความคิดเห็น แต่เมื่อกษัตริย์ขอความคิดเห็นล่ะก็จะตอบเพียงแค่ว่า "เห็นด้วย" หรือ "ไม่เห็นด้วย" เท่านั้น...

สงครามเธอร์โมไพลา เป็นหนึ่งในสงครามเปอร์เซีย - กรีก สงครามเธอร์โมไพลานี้เริ่มตั้งแต่ กษัตริย์ เซอร์ซีส (Xerxes)โอรสของกษัตริย์ดาริอุส (Darius)(คนล่ะดาริอุสกับคนที่ทำสงครามกับ อเล็กซานเดอร์มหาราชนะครับ)กษัตริย์ผู้ครองจักรววรดิเปอร์เซีย ...ในปี 480 ก่อน ค.ศ. กษัตริย์เซอร์ซีสก็พร้อมจะทำสงครามกับหมู่มวลชาวกรีก จึงได้ยกทัพทางบกลงมาทางตอนเหนือของกรีก และยกทัพเรือมาตามชายฝั่งทะเลของกรีกด้วย...

นครรัฐของกรีกรู้ตัวว่าหากไม่ร่วมมือกัน นครรัฐต่างๆ จะต้องถูกทำลายไปทีละเมืองแน่ๆ จึงรวมกำลังส่งกองทัพไปดักอยู่บริเวณเส้นทางแคบๆ ในบริเวณภูเขา ชื่อช่องแคบคือ เธอร์โมไพลา (Thermopylae)ซึ่งกองทัพที่เดินทางมาทางบกจะต้องผ่านมาทางบริเวณนี้...แต่เมื่อกองทัพของกรีกพบว่ายังมีกองทัพเรือมุ่งหน้าไปยังนครรัฐที่ไม่มีกองกำลังป้องกันตนเอง จึงยกทัพไปป้องกันบริเวณชายฝั่ง ทิ้งแนวหลังที่ช่องแคบเธอร์โมไพลาไว้ให้กับ กองทัพสปาร์ต้าเพียง 300 คนเท่านั้น...

แต่กองทัพสปาร์ต้าก็ได้ทำการสู้รบกับกองทัพที่เดินทางมาทางบกของเปอร์เซีย และได้ฆ่าทหารชาวเปอร์เซียไปได้หลายพันคน แต่มีผู้ทรยศหักหลังบอกเส้นทางลับให้กองทัพเปอร์เซียเดินทางผ่านมาตามแนวเขา กษัตริย์เซอร์ซีส จึงได้แบ่งกองทัพจำนวนหนึ่งไปตามเส้นทางนั้นและโอบล้อมโจมตีกองทัพสปาร์ต้าอีกทางหนึ่ง แต่กองทัพสปาร์ต้าก็ไม่ได้ยอมแพ้ได้สู้จนสิ้นชีวิตหมดทุกคน...

สุดท้ายสงครามจบลงที่การรบทางทะเล เนื่องจากกรีกนั้นมีเรือรบที่ทรงอานุภาพกว่าเปอร์เซีย เมื่อรู้ว่าไม่มีทางชนะศึกทางบกแล้ว กรีกจึงได้ทิ้งเมือง และอพยพผู้คนออกมานอกเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้เมืองถูกทำลาย...จากนั้นจึงเปิดศึกกันทางทะเล โดยฝ่ายกรีกได้รับชัยชนะ จากกองทัพเรือที่มียุทธวิธี และประสิทธิภาพของเรือที่ดีกว่า...

ในปี 431 ก่อน ค.ศ. นครรัฐเอเธนส์ได้เกิดขัดแย้งกับสปาร์ต้าทำให้มีสงครามเกิดขึ้นนานถึง 20 ปี สุดท้ายฝ่ายสปาร์ต้าได้รับชัยชนะเนื่องจากกองทัพเรือของเปอร์เซียได้เข้ามาช่วย จากนั้นนครรัฐเอเธนส์ก็ล่มสลาย และอีกไม่นานก็ได้เข้าสู่ยุคจักรวรรดิ กรีก-มาซิโดเนีย ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช...

ผมเชื่อว่า เหตุที่กองทัพชาวสปาร์ต้าที่เข็มแข็งนั้นยกทัพไปช่วยรัฐกรีกอื่นเพียง 300 คน เพราะชาวสปาร์ต้านั้นไม่สนใจในกิจการภายนอกดินแดนของตน และไม่สนว่าแผ่นดินกรีกจะเป็นอย่างไร หากกองทัพเปอร์เซียบุกมาถึงรัฐสปาร์ต้าก็คงจะต้านไว้ได้...แต่หากยกทัพไปช่วยจริงจังก็คงจะร่วมมือกับรัฐอื่นในกรีกเอาชนะกองทัพเปอร์เซียที่มารุกรานได้ อีกทั้งชาวสปาร์ต้ายังต้องระแวงกับพวกทาสภายในเมืองอีก จึงต้องคิดให้ดีหากต้องยกไปช่วยรัฐอื่นๆ ...หวังว่าคนที่ดูหนังมาแล้ว คงจะไม่มีอคติกับสปาร์ต้านะครับ...

การที่ได้อ่านประวัติศาสตร์จริงมาก่อนแล้วค่อยไปดูหนังแล้ว ผมว่าจะเป็นการเพิ่มอรรถรสในการดูหนังมากยิ่งขึ้น เพราะจะเข้าใจในเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่ตอบไม่ได้เวลากำลังดูอยู่ได้บ้าง และเข้าใจในความเป็นไปของมัน...หวังว่าทุกท่านคงจะได้ดูหนังเรื่องนี้ด้วยความสนุกมากขึ้นนะครับ... ^ ^

No comments: