Friday, March 16, 2007

การหนีคือยอดกลยุทธ์...

รู้สึกว่าช่วงนี้เริ่มร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนกลางวันแทบไม่อยากจะออกไปไหน อยากหาอะไรเย็นๆ ดื่ม เพราะอากาศช่วงนี้มันช่างวิกฤตจริงๆ วันนี้ก็มีข่าวรายงานมาว่า ช่วงนี้ทางด้านขั้วโลกฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงที่สุดในรอบ 127 ปี ตั้งแต่มีการบันทึกไว้ สรุปได้ว่า อนาคตข้างหน้า คนเราคงต้องหาทางคลายร้อนด้วยการแลบลิ้นทิ้งไว้แน่ๆ... ใครจะไปรู้เนอะ...

ฟ้าใสขึ้นบ้างหลังจาก 3-4 วันก่อนหมอกควันไฟป่า ปกคลุม ทำให้เย็นๆ ได้บ้างแต่ก็หายใจไม่สะดวก ส่วนผมน่ะหรือ? ไม่ได้ออกไปไหนกะเค้าเลย วันๆ อยู่แต่ในห้อง นั่งเล่นเกมส์ เล่นเน็ต ฟังเพลงไปวันๆ...เอิ๊กๆ..

อยากจะหาอะไรๆ ที่มันสบายๆ ในช่วงหน้าร้อนทำ แบบที่ชอบๆ ด้วย ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี อยากทำอะไรก็ขี้เกียจไปหมด...ว่าแล้วก็หาอะไรมานั่งเขียนดีกว่า เพราะเมื้อวานผมนั่งเขียน blog ลงในนี้ตั้งกะบ่าย 2 พอเขียนเสร็จปุ๊บก็มาดูเวลา อ้าว!!! เวรกรรม 5 โมง ครึ่งแล้วรึ...ว่าไปแล้วมันก็เพลินดี...

หัวข้อวันนี้ก็ยังไม่พ้นอะไรๆ ที่น่าเบื่อสำหรับบางคน แต่ผมว่ามันน่าคิดดีนะ ว่าสมัยโบราณคนสมัยนั้นเค้าคิดกันได้ยังไง...อย่างที่หัวข้อวันนี้ "การหนีคือยอดกลยุทธ์" อยู่ใน 36 กลยุทธ์ที่รวบรวมมาตั้งแต่สมัยจีนโบราณช่วงยุค ชุนชิวนู้น ไม่นานหรอกครับประมาณ เกือบ 770 ปีก่อน ค.ศ. นู้นล่ะ จนเมื่อปี ค.ศ.1947 จึงมีจัดการจัดทำเป็นรูปเล่มขึ้นมาให้คนรุ่นหลังได้รู้กันล่ะ...

สาระสำคัญของกลยุทธ์ก็คือ " หากประสบสภาวะการณ์ที่ไม่สู้ดี และคิดว่าไม่สามารถจะเอาชนะได้แล้วก็ควรจะรู้จักหลบ รู้จักเลี่ยง พึงสู้เมื่อคิดว่าตนแข็งแกร่งกว่า สามารถเอาชนะได้แน่นอน หากรู้ว่าสู้ไม่ได้ก็ควรจะหลบเลี่ยง กลับไปรวบรวมความคิดแผนการณ์ไว้กลับมาสู้ใหม่"


แล้วถ้าหนีเนี่ย จะไม่ถูกดูแคลนว่า ขี้ขลาดหรือ?...ในที่นี้เค้าก็บอกไว้อย่างมีเหตุผลครับ ว่า...

หากถึงสถานการณ์ที่คับขัน ต้องเอาตัวรอดแล้ว จะมีทางออกให้เลือกอยู่ 3 ทางคือ ยอมแพ้, เจรจาต่อรองกัน และ หนี โดยที่...

การยอมแพ้ คือ การพ่ายแพ้อย่างที่สุด ไม่สามารถพลิกเกมกลับมาได้อีก...

การเจรจาต่อรอง เสมือน การพ่ายแพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ยังพอจะพลิกเกมได้ แต่ก็ยากเพราะต้องตกเป็นรองอีกฝ่าย ในการเจรจา...

แต่ถ้า หนี ยังสามารถที่จะกลับไปคิดแผน เตรียมตัวกลับมาพลิกสถานการณ์ได้อยู่...

เชื่อไหมครับว่ากลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์สุดท้าย คืออันที่ 36 จากทั้งหมดของ 36 กลยุทธ์นี่ เป็นเหมือนกลยุทธ์ที่สามารถพลิกสถานการณ์ หากทำผิดพลาดอะไรไปยังสามารถเปิดช่อง สร้างทางรอดให้กับเราเองได้...จะลองยกตัวอย่างบุคคลใน 3 ก๊กให้ลองฟังดูบ้าง...

เล่าปี่ หนีมาตลอดช่วงอายุ 20 ยัน 40 กว่าๆ หนีไปพึ่งคนนู้นคนนี้ เจอคนลอบฆ่า ลอบเอาชีวิตมานับไม่ถ้วน ได้เมืองมาก็โดนคนอื่นเค้าโกงไป เรียกว่าหนีระหก ระเหินไปทั่วเลย แต่พอได้ขงเบ้งมาช่วยงาน ก็กลับมายิ่งใหญ่ได้...

โจโฉ ตอนหนีทัพเรือ ก็หนีแบบไม่คิดชีวิต ยกทัพไปเป็นล้าน แต่เหลือกลับมาไม่ถึง 20 ชีวิต ทิ้งลูกน้องที่บาดเจ็บเอาตัวรอด จนกลับมามีชีวิตสู้กันได้ใหม่...

จริงๆ แล้วปัญหาทุกปัญหาก็ต้องย่อมจะมีทางออกของมัน เพียงแต่เราจะหามันเจอไหม.. เพียงแต่อย่าไปคิดสั้น หุนหันพลันแล่น ตัดสินใจโดยไม่คิดให้รอบคอบ หนีปัญหา...ในที่นี้บอกไว้ว่า "ให้หนีออกไปคิดอะไรๆ ให้ถี่ถ้วน แล้วค่อยกลับมาสู้กับมันใหม่"

สู้ๆ ครับ...เอิ๊กๆๆ


By.gazebosky

No comments: