Tuesday, March 6, 2007

คุณธรรมกับสติปัญญา...

หมู่นี่ผมเองก็แปลกใจตัวเองเช่นเดียวกันว่าทำไมวันๆ ถึงเอาแต่คิด และอยากเขียนเรื่องอะไรที่มันเป็นนามธรรมจัง...ทำไมไม่หาเรื่องอะไรที่มันเบา และผ่อนคลายจิตใจ เช่น นิยาย หรือหนังสือดีๆ ซักเล่มมาพูดมากกว่า...

ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทุกวันนี้ชีวิตผมมันน่าเบื่อสิ้นดี...จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้ชอบอะไรที่มันตื่นเต้นนะ แต่ว่าการที่ไม่ได้หยิบจับทำอะไรเลย นอกจากเข้ามาเขียน Blog เนี่ย...มันน่าเบื่อ และรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์...

อีกส่วนหนึ่งคืออยากจะเขียนความรู้ ความรู้สึกนึกคิดในใจผมเองมาเก็บไว้ เผื่อวันหน้าได้เข้ามาอ่าน จะได้เตือนสติในวันนั้นให้คิดได้...ให้ผมทำตัวทำใจเหมือนกับช่วงที่ยังเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์และปณิธานที่ว่าจะทำแต่สิ่งที่ดีๆ...จะได้ไม่หลงมัวเมาไปกับกิเลสภายนอก...

ผมเคยได้อ่าน "บทวิจารณ์สามก๊ก" ของผู้วิจารณ์ที่มีชื่อเสียงของไทยท่านหนึ่ง...ท่านได้ถือคติที่สำคัญของคนที่ได้อ่านสามก๊ก หรือ บุคคลทั่วๆ ไปไว้ว่า...

"คนเราต้องมีคุณธรรมเป็นรากฐานของสติปัญญา สติปัญญาต้องเกื้อกูลคุณธรรม"

หมายความว่าอย่างไร...

คนที่มีสติปัญญามาก หรือเรียกง่ายๆ ว่าฉลาดนั้น จะต้องมีคุณธรรมประจำใจตน เช่น ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดี ง่ายๆ ก็คือ ศีล 5 ในศาสนาพุทธนั่นเอง... เช่นเดียวกัน มีคุณธรรมอันดีในตนอยู่มากนั้น แต่ไม่ใฝ่หาความรู้ พัฒนาตนเอง ให้รอบรู้โลกภายนอกอยู่เสมอนั้นก็มิได้ จำเป็นต้องมี 2 สิ่งนี้ควบคู่กันและเกื้อกูลกัน...

เป็นคนดีอยู่แล้ว ต้องตั้งใจหมั่นใฝ่หาความรู้ใส่ตัวให้มากๆ ...เพื่อยกระดับสติปัญญาตนเอง

เป็นคนเก่ง และฉลาดอยู่แล้ว ต้องมีคุณธรรมประจำใจตน... รู้จักผิดชอบชั่วดี

เมื่อมีทั้ง 2 สิ่งนี้อยู่แล้ว ก็ต้องพัฒนาตนเองทั้ง 2 ด้านให้ควบคู่กัน และเกื้อกูลกันให้เหมาะสม มิฉะนั้นแล้ว เมื่อมีสติปัญญามากกว่าคุณธรรม ก็จะใช้สติปัญญาไปในทางที่ผิด หาทางเอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอกว่า หากมีคุณธรรมมาก แต่มีสติปัญญาน้อย ก็จะไม่รู้เท่าทัน คิดทำสิ่งใดก็จะไม่ประสบความสำเร็จ...

หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมผมถึงยกเอาสามก๊กเข้ามาอ้างทุกที ทั้งๆ ที่ไม่ได้อ่านจบครบ 3 รอบเลย แม้แต่รอบเดียวก็อ่านไม่จบ ทำไม...เพราะผมอ่านเอาเกร็ดความรู้ อ่านเอาปัญญา อ่านคนในสามก๊ก ทำอย่างไรจึงจะเป็นวีรชน และทำอย่างไรจึงทรชน...อย่างเช่น

เล่าปี่...เป็นคนที่ได้ชื่อว่ามีคุณธรรม แต่ไร้สติปัญญา แม้ว่ามีคนเก่งมาเคารพนับถือ มาเป็นพวกอยู่มาก แต่ก็มิอาจทำการใหญ่ พาตนเองและพรรคพวกไปสู่เป้าหมายได้...

โจโฉ...เป็นคนที่ได้ชื่อว่าไร้คุณธรรม แต่มีสติปัญญามาก แต่แม้ว่าไร้คุณธรรม ก็สามารถใช้สติปัญญาเอาตัวรอดได้ นำพาแคว้นไปสู่ความเจริญได้ แต่ไม่ยั่งยืน ผู้คนพากันสาปแช่งโจโฉว่า ทรราชย์...

ในขณะที่บุคคลที่ชื่นชมที่สุดใน สามก๊ก คือ จูกัดเหลียง ขงเบ้ง นั้นเป็นผู้มีทั้งคุณธรรมและปัญญาอย่างแท้จริง แม้ตายไปแล้วก็ได้ชื่อว่า เป็นเทพแห่งปัญญา ที่ใช้หลักคุณธรรมในการปกครองบ้านเมือง ไว้คราวหลังจะเอาตำราการปกครองบ้านเมืองที่ขงเบ้งเคยเขียนไว้มาเล่าให้ฟังกันบ้าง...

วันนี้ผมก็คงจะรู้สึกสบายใจแล้วที่ได้เขียนอะไรๆ ที่ระบาย ความรู้ ความรู้สึกในใจออกมาบ้าง...ในอนาคตอาจมีโอกาสได้นำสิ่งนี้ไปใช้ก็ได้...สักวันนึงล่ะ
By.gazebosky

1 comment:

GirlTear said...

อืม นี่ก็เพิ่งมาเข้าใจพวกคำขวัญ หรือปรัชญาของรร. ต่าง ๆ ที่มักจะเขียนว่าคุณธรรม นำความรู้ มาเมื่อไม่เท่าไหร่นี่เองนะ ไปอบรม หรือประชุม หรืออะไรสักอย่าง ถึงได้แบบว่า อ้าว หมายถึงใช้นำจริง ๆ นี่น่ะเหรอ นึกว่าให้มันคล้องจองเฉย ๆ ซะอีก รู้สึกตัวเองโคตรโง่เลย แต่ก็เห็นด้วยมากที่คุณธรรมต้องนำ