Thursday, February 8, 2018

Chivalry is Dead

Chivalry is Dead - Trevor Wesley






อีกเพลงหนึ่งที่บังเอิญเปิดไปเจอ (แล้วก็ซื้อเพลงสนับสนุนเรียบร้อย) ทำนองมันก็เป็นแบบที่ผมชอบน่ะนะ เพลงออก feels good หรือ falling in love ประมาณนี้ เพลงออกแนวผู้ชายที่อยากเลิกทำตัวเป็นสุภาพบุรษสักที ขอผิวปากเหมือนจิ๊กโจ๋หน้าปากซอย เร่งเร้าให้คุณได้รู้สึกถึงความรักของผมที่เติบโตไปพร้อมกับคุณจะดีกว่า ขอสวมบทชายโฉดหน่อยเถอะ และผมขอดูแลคุณและปฏิบัติต่อคุณแบบผู้หญิงที่มีค่าที่สุดในโลก (อันหลังเติมเอง) ว่ายังงั้น

Girl, just let your hair down
นี่คุณ, ลองปล่อยผมของคุณลงมาสิ
Let's paint the whole town
สยายไปให้เหมือนกับกำลังระบายสีให้กับทั่วทั้งเมืองเลย
Life is our playground, yeah
ชีวิตเราก็เหมือนสนามเด็กเล่นนั่นแหละ, ใช่ไหมล่ะ

But I'm not a kid no more
แต่ผมก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ

So I must open doors and make you feel like the lady you are
ดังนั้น ผมต้องจริงจังกับชีวิต และทำให้คุณได้รู้สึกแบบผู้ใหญ่
My momma raised me to be classy, not flashy
แม่ผมคอยบอกให้ผมทำตัวให้มีคลาสหน่อย อย่าทำตัวเป็นเด็กๆ
I'm happy to please you
ผมดีใจที่หากคุณจะกรุณาฟัง
Though I can tell that's not what you're used to
แม้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะบอกต่อไปนี้คุณอาจไม่คุ้นเคยกับมัน

And they say (They say) chivalry is dead (Dead, Dead)
มีคนพูดว่า (พูดว่า) อัศวินได้ตายไปแล้ว
Girl, let a real man pick up the slack
นี่คุณ, ให้ผู้ชายคนนี้ได้ปลดปล่อยตัวเอง
And treat you with respect, yeah
และปฏิบัติกับคุณด้วยความเคารพ, นะ

And you don't have to love me
แล้วคุณก็ไม่จำเป็นต้องรักผม
Love me, Love me
รักผม, รักผม
You don't have to love me
แล้วคุณก็ไม่จำเป็นต้องรักผม
Love me, Love me
รักผม, รักผม
Just 'cause I'm a gentleman don't mean
เพียงแค่ว่าผมเป็นสุภาพบุรุษกับคุณ ไม่ได้หมายความว่า
I ain't taking you to bed
ผมจะไม่พาคุณขึ้นเตียงหรอกนะ

Ahhh, baby let me buy your meals
โอ้ ที่รัก, ขอให้ผมได้เลี้ยงอาหารคุณ
I see you're head over heels
ผมมองคุณตั้งแต่หัวจรดเท้
I feel like you deserve it
ผมรู้สึกว่าคุณคู่ควรกับมัน
There's no pressure
ไม่ต้องเกร็งไปหรอก
We can do whatever makes you comfortable, yeah
พวกเราสามารถทำอะไรก็ได้ ถ้าคุณรู้สึกสบายไปกับมัน, นะ

I could float your boat
ผมจะพาคุณไปล่องเรือ
If you're cold take my coat
หรือถ้าคุณรู้สึกหนาวผม ผมก็จะห่มคลุมคุณด้วยเสื้อโค้ทของผม
I'll sing a music note from a song that I just wrote
ผมจะร้องเพลงตามโน้ตที่เพิ่งแต่งเสร็จให้คุณ
Girl, just take my hand
นี่คุณ, แค่จับมือกับผมไว้
And let me be your man
และขอให้ผมเป็นผู้ชายของคุณ
Though that's not what you're used to
แม้ว่าสิ่งที่ผมทำต่อไปนี้คุณอาจไม่คุ้นเคยกับมัน

That's just how you treat a lady

นี่แหละ คือแบบที่ผมจะปฏิบัติต่อคุณแบบผู้หญิงคนหนึ่ง
Treat a lady, Treat a lady

แบบผู้หญิงคนหนึ่งแบบผู้หญิงคนหนึ่ง
Treat a lady, Treat a lady
แบบผู้หญิงคนหนึ่งแบบผู้หญิงคนหนึ่ง
Treat a lady

แบบผู้หญิงคนหนึ่ง
Dadadadadum
(ฮัมเพลง)

Saturday, February 3, 2018

Isn't She Lovely

Isn't She Lovely - Stevie Wonder



มาถึงเพลงระดับตำนานกับนักร้องที่เป็นตำนานที่มีชีวิต เชื่อว่าเพลงนี้หลายๆ คนต้องชอบมากๆ กับจิตวิญญาณของสตีวี่ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของลูกสาวคนแรก (Aisha) ของเขาได้อย่างซาบซึ้ง บวกกับเสียงฮาร์โมนิก้าอันเป็นเอกลักษณ์ มีช่วงจังหวะกระชากเสียง มี outro ที่ให้ผู้ฟังได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ เชื่อว่าใครฟังก็ไม่เบื่อหรอกเพลงนี้ ถ้ามผมมีลูกสาวยังอยากตั้งชื่อแบบเดียวกับลูกสาวของสตีวี่เลย

Isn't she lovely
เธอช่างน่ารัก (เหลือเกิน)
Isn't she wonderful
เธอช่างมหัศจรรย์ (เหลือเกิน)
Isn't she precious
เธอช่างล้ำค่ำ (เหลือเกิน)
Less than one minute old
ทั้งๆ ที่มีอายุแค่ไม่ถึงนาทีเท่านั้น
I never thought through love we'd be
ผมไม่อาจคิดได้เลยว่าความรักของเราสองคน
Making one as lovely as she
จะทำให้เกิดสิ่งที่สวยงามได้ขนาดนี้
But isn't she lovely made from love
เธอช่างน่ารัก (เหลือเกิน) ที่ถูกสร้างมาจากความรัก

Isn't she pretty
เธอช่างน่ามอง (เหลือเกิน)
Truly the angel's best
งดงามดั่งนางฟ้าบนสวรรค์
Boy, I'm so happy
ให้ตายเถอะ ผมมีความสุขล้น
We have been heaven blessed
เราสองคนเหมือนได้รับการประทานพรอันประเสริฐ
I can't believe what God has done
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพระเจ้าทำได้อย่างไร
Through us he's given life to one
ที่ได้ให้ชีวิตกับใครคนหนึ่ง
But isn't she lovely made from love
เธอช่างน่ารัก (เหลือเกิน) ที่ถูกสร้างมาจากความรัก

Isn't she lovely
เธอช่างน่ารัก (เหลือเกิน)
Life and love are the same
ชีวิตกับความรักก็เหมือนกันนั่นแหละ
Life is Aisha
ชีวิตเรียกอีกอย่างว่า Aisha
The meaning of her name
เป็นความหมายของชื่อเธอ
Londie, it could have not been done
Londie (ภรรยาสตีวี่) สิ่งนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้
Without you who conceived the one
ถ้าไม่มีคุณช่วยอุ้มท้องเด็กคนนี้
That's so very lovely made from love
เธอช่างน่ารัก (เหลือเกิน) ที่ถูกสร้างมาจากความรัก

Could She Be Mine

Could She Be Mine - Donny Osmond

เพลงในจังหวะสนุกๆ เนื้อหาดี (สำหรับคนที่สมหวังนะ ^^") ฟังแล้วกระตุ้นให้หัวใจได้ชุ่มช่ำกับความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามารถเป็นทุกอย่างในชีวิตของผู้ชายคนนึงได้ ถึงกับต้องยกตัวอย่าง ผู้หญิงที่เป็นตำนานมาถึง 4 คน ด้วยกัน (ขนาดนั้น) รู้เลยว่าทั้งรักทั้งหลงผู้หญิงคนที่ว่าขนาดไหน


Been there dreaming, helps to pass the time
การฝันกลางวัน มันก็ช่วยฆ่าเวลาดีนะ
Got to thinking 'bout this girl that could be mine
คอยคิดไปเองว่าคุณเป็นผู้หญิงของผม
She's got everything,
คุณมีทุกอย่างที่ผมต้องการเลยล่ะ

But I don't think, she even knows
แต่ผมว่าคุณคงจะไม่รู้ตัวหรอก
All the while inside my love for her still grows
ว่าความรักที่ผมมีให้กับคุณมันเติบโตขึ้นในทุกๆ ขณะ
I want everything, she's got everything
ทุกสิ่งที่ผมต้องการ คุณก็มีครบทุกอย่าง

She could be Bardot & Monroe, Sophia Loren
คุณเป็นเหมือน บริกิต บาร์โด, มารีริน มอนโร และ โซเฟีย ลอเรน
She could be reincarnated as Hepburn again
คุณอาจจะเป็น ออเดรย์ เฮบเบิร์น* กลับชาติมาเกิดใหม่
She could be perfect to love, simply divine
คุณช่างเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ควรค่าให้รัก
Could she be mine, ooh
คุณจะเป็นผู้หญิงของผมได้ไหมนะ?

From my window, I can see her place
ผมเห็นคุณได้จากหน้าต่างในห้องของตัวเอง
I know her silhouette so well that I could trace
แค่ผมเห็นแค่เงาก็รู้ได้เลยว่าเป็นคุณแน่ๆ
Every curve & line
ก็ผมจำสัดส่วนของคุณได้ดีเลยนี่นา (-..-)

Seems a crazy way, to pass my time away
มันคงจะบ้าไปแล้วที่ผมมัวแต่เสียเวลา
Listing clothes that she would wear to work that day
คอยแต่นั่งคิดว่าวันนี้คุณจะใส่ชุดแบบไหนมากันนะ
How she looks so fine, wishing she was mine
ทำไมคุณช่างดูดีเสียเหลือเกิน อยากให้คุณเป็นผู้หญิงของผมจังเลย

Could I be just what she needs, am I fooling myself
แต่ผมจะสามารถให้ทุกอย่างที่คุณต้องการได้เหรอ? มันคงไม่มีทางหรอก
She would ever choose me instead of anyone else
คนแบบคุณจะมาเลือกผมแทนที่จะมองหาผู้ชายที่ดีกว่ายังงั้นเหรอ (ไม่น่า)
Could it be that our fate, is inter twined
หวังว่าโชคชะตาจะช่วยนำพาให้เราสองคน
Could she be mine
ให้ผมได้สมหวังกับคุณทีได้ไหม?

I asked my best friend, if he thought she could be mine
ผมก็เคยถามเพื่อนสนิทของผม ว่าเขาคิดยังไงถ้าผมสนใจคุณ
He just laughed, I didn't take it as a positive sign
เพื่อนมันดันไม่ตอบได้แต่หัวเราะ นี่แสดงว่าผมมันไม่มีหวังเลยเหรอ
His advice was "man, she's way out of your league
สุดท้ายก็แนะนำผมว่า "เฮ้ย ผู้หญิงแบบเธอมันคนละชั้นกับนายนะ"
She's the sun, and the moon, she is shining . . . .for me"
"เธอน่ะเหมือนกับดวงตะวัน จันทรา ที่สาดแสงมาที่นาย"

* คนนี้แสดงให้เห็นเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องสวย แต่ต้องโคตรจะมีเสนห์
แปลตามอารมณ์เพลง คงจะไม่ถูกหมดหรอกนะ

The Way You Look Tonight

The Way You Look Tonight - Cover by Riley Elmore

เป็นเพลงที่ผมชอบเพลงหนึ่งเลย กับการ cover ของ Riley Elmore ผู้เข้าประกวด The Voice America 2016 ด้วยเสียงต่ำแบบ Frank Sinatra กับอายุเพียงแค่นี้ และทำนองที่บวกกับเสียงเครื่องเป่าและเปียโน ทำให้เพลงร่วมสมัยมากขึ้น เนื้อเพลงทำให้ผมรู้สึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นตัวแทนความรู้สึกของผู้ร้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Some day when I'm awfully low
ในบางวันที่ผมรู้สึกแย่อย่างมาก
When the world is cold
ในวันที่โลกดูโหดร้าย
I will feel a glow just thinking of you
เพียงแค่คิดถึงคุณ มันก็กระตุ้นให้ผมก็ลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง
And the way you look tonight
และผมจะได้พบคุณในคืนนี้

Yes you're lovely with your smile so warm
ก็เพราะคุณช่างน่ารักเหลือเกิน รอยยิ้มนั้นก็ช่างดูอบอุ่น
And your cheeks so soft
แก้มคุณนั้นดูช่างบอบบางน่าถะนุถนอม
There is nothing for me but to love you
มันก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ผมรักคุณ
And the way you look tonight
และผมจะได้พบคุณในคืนนี้

With each word your tenderness grows
คำพูดที่อ่อนโยนของคุณในทุกๆ คำ 
Tearing my fear apart
มันปัดเป่าความกลัวของผมทิ้งไปจนหมดสิ้น 
And that laugh that wrinkles your nose
แล้วเวลาที่คุณหัวเราะ รู้ไหมว่ามันทำให้จมูกของคุณมีรอยย่น
It touches my foolish heart
แต่นั่นแหละที่ทำให้หัวใจที่แสนจะโง่เขลาของผมได้รู้สึกถึงคุณ
 
Lovely, don't you ever change
ช่างน่ารัก ไม่แปรเปลี่ยนเลย
Keep that breathless charm
เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ จนแทบจะหยุดหายใจ
Won't you please arrange it
ได้โปรด เป็นอย่างนี้ตลอดไป
Cause I love you Just the way you look tonight
เพราะว่าผมรักคุณ  และผมจะได้พบคุณในคืนนี้
Just the way you look to-night
และผมจะได้พบคุณในคืนนี้

*แปลตามความรู้สึกต่อเพลง อาจไม่ตรงซะทีเดียว 

Wednesday, March 10, 2010

เก่งหรือจะสู้เฮง...

ช่วงเดือนมีนาคมนี้ผมเริ่มติดเบรกพักร้อนให้กับตัวเอง หยุดทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่เฉยๆ ไม่สนใจโลกภายนอก ผมรู้สึกเบื่อๆ อยากให้เวลากับตัวเองได้คิดกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคตเมื่อผมจบ ปริญญาโทไปแล้ว..

หาเช่าหนังมาดูครับ...หลังจากที่การ์ตูน Eyeshield 21 อวสานไป (มีคนบอกว่าโดนตัดจบ) ผมก็เลยหาหนังเกี่ยวกับอเมริกันฟุตบอลมาดูแก้เซ็ง...เรื่องแรกที่คนแนะนำ "We are Marshall"

แปลกไปจากดูกีฬาอื่นๆ ครับ กีฬาของเอมริกันชนน่ะ "คุณต้องชนะ" เท่านั้นถึงจะมีความหมาย คนดูไม่จดจำหรอกว่าคุณทุ่มเทแค่ไหนในเกมนั้น หากคุณพ่ายแพ้ ทุกคนจดจำผู้ชนะเท่านั้น...

โอ้โห...โหดร้ายกับชีวิตผมมาก...จะมีใครบ้างที่ไม่เคยแพ้กันนะ?

แต่อย่างน้อย "หากคุณทุ่มเทให้กับเกมจนถึงวินาทีสุดท้าย คุณจะไม่มีวันพ่ายแพ้" เอ่อ ฟังดูดีขึ้นมาหน่อย แต่ยังไงก็ฟังดูหดหู่สำหรับผมอยู่ดี

เรื่องต่อมา "The Invincible" เรื่องราวเล่าถึงชายหนุ่มใหญ่วัย 30 คนนึงที่มีโอกาสได้คัดตัวกับทีมในระดับ NFL ด้วยการต่อสู้ ทนคำเหยียดหยาม และพยายามจนถึงที่สุด ในที่สุดเขาก็ประสบผลสำเร็จ โดยเอาข้อความหนึ่งที่ภรรยาเก่าได้เขียนถึงเขาในตอนที่ทิ้งไป...

"You'll never go anywhere, you'll never make any money and you'll never make a name for yourself"

แปลง่ายๆ ก็คือ "ชีวิตของ..(คุณ) จะไม่มีวันทำอะไรได้ดีซักอย่างเลยแน่นอน" สุดท้ายพระเอกของเราก็ใช้ข้อความนั้นพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ตัวเขาเอง ทำได้...ดูแล้วซึ้งครับ...

ยังมีอีกสักเรื่องสองเรื่องที่เช่ามาดูเหมือนกัน แต่ก็ไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่...แต่สิ่งที่ผมได้คิด และรู้สึกทรมานกับมันก็คือ...

"ชีวิตคนเราต้องสู้เพื่อจะชนะ ต้องทุ่มเททั้งกายและใจทำให้มันสำเร็จ จงอย่าได้พ่ายแพ้เป็นอันขาด" แต่แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ ถึงจะประสบผลสำเร็จ? ต้องนานขนาดไหนกัน?

จริงอยู่ว่าผมยังอายุน้อยอยู่ แต่ผมก็ไม่อยากจะบอกตัวเองให้มีชีวิตสู้ๆเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าจุดหมายที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ผมยังไม่มีจุดหมายเลยครับ ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี ไม่รู้ว่าควรทุ่มเทกับอะไรดี สับสนไปหมด

ไม่อยากให้คนอื่นมาดูถูก ไม่อยากให้คนคิดว่า ตอนนั้นชั้นแพ้เธอตอนเรียน แต่สุดท้ายชั้นก็ชนะเธอตอนทำงาน นายมันแค่สวะ!!

ซินแสท่านหนึ่งที่เตือนผมไว้ "เก่งหรือจะสู้เฮงได้" มันติดใจผมมากเลย...

ช่วงนี้สับสนกับชีวิตจริงๆ ครับ...

Saturday, March 6, 2010

ด้านมืดของทุกคน...

เคยดู Star Wars กันบ้างไหมครับ? คงเคยได้ยินคำว่า "dark side" หรือ "ด้านมืด" กันบ้างใช่ไหมครับ คนเราทุกคนมีด้านมืดเสมอ บางทีเราอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

ผมเองก็มีด้านมืดเหมือนกัน หลายวันก่อนตัวผมเอง...รู้สึกผิดพลาด ทำสิ่งที่ไม่น่าจะทำลงไป...ผมพ่ายแพ้ให้กับด้านมืดของตัวเอง...

หลายวันที่ผ่านมานี้ ผมครุ่นคิดถึงสิ่งที่ทำมาตลอดเลยครับ ว่าผมทำไปได้ยังไง ทำไมถึงได้ทำแบบนั้นลงไปได้...555+ ไม่ต้องกลัวหรอกนะครับ ไม่ใช่ร้ายแรงอะไร แต่ถ้ามีคนรู้มันก็ไม่ดีหรอก เหมือนกับว่าตอนนี้ผมมี "โอตัปปะ" ความละอายต่อบาปที่ทำลงไปจนเหมือนวัวสันหลังหวะ...

อารมณ์นั้นเลย...

ที่ผ่านมาผมคิดเสมอว่า "ตัวของเราเอง" นั่นแหละที่เป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุด บ่อยครั้งผมสามารถชนะใจตัวเองได้ เพราะผ่านเรื่องราวมาเยอะ จนรู้ว่าต้องทำยังไง และอีกบ่อยครั้งนั่นแหละที่แพ้ใจตัวเองเหมือนกัน จนต้องมาคิดทีหลังว่า ตอนนั้นทำทำไมวะ...

หลังจากที่ผมได้กลับไปหาคนที่ผมได้กระทำผิด (ทั้งๆที่ เขาก็มองผมเป็นคนดี)และรู้ว่าเธอไม่ได้รู้เรื่องที่ผมทำลงไป ผมคงจะสบายใจมากขึ้นเยอะ...

ต่อไปผมสัญญากับตัวเองว่าผมจะไม่ทำแบบนี้อีก...ไม่อยากให้คนอื่นมองในแง่ที่ไม่ดี ที่สำคัญคือ "ไม่อยากพ่ายแพ้ให้กับใจของตัวเอง"...

Thursday, November 5, 2009

Everyone but except you...

นานแล้วสินะที่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้...

คงเป็นความโชคดีด้วยมั้งที่บังเอิญได้ระบายอะไรไปในหัว MSN จนเธอคนนั้นต้องทักมา บทสนทนาแม้จะไม่ยาวนานแต่มันก็ช่างทำให้ผมต้องยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว...

โอกาสช่างเป็นใจที่เธอกำลังอยากอู้งาน เซ็งๆ เลยทำให้เธอคุยกับผมได้นานกว่าที่แล้วๆ มา บอกตามตรงนะว่าผมก็หวั่นๆ ว่าคราวนี้ก็คงได้แค่คุยสั้นๆ อีกแล้ว แล้วเราก็คงต้องเป็นฝ่ายขอบายก่อนอีกแล้วสินะ..เอาน่านิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี...

เริ่มด้วยคำถามโง่ๆ ตามเคยอีกแล้วเรา สบายดีไหม? หนาวแล้วนะ ที่นู้นหนาวไหม? ฯ ลอยกระทงที่ไหน (น่าสมเพชตัวเองจริงๆ)

แต่ดูท่าเธอคงอารมณ์ดีเลยบอกว่าไปลอยกระทงมาแหละ สนุกด้วยได้เจอเด็กๆ หน้าใสกิ๊ก จนถามผมว่ามีแฟนเด็กดีไหม...

โชคดีนะครับที่มันเป็น MSN ถ้าเห็นหน้าผมจริง คงเห็นได้หน้าแอบซีดไปเล็กๆ เหมือนกัน แต่ก็ต้องทนตอบขำๆ ให้บทสนทนาสนุกทั้งๆ ที่อยากจะบอกใจจะขาดว่า "อย่ามีแฟนเลยนะ จะหล่อแค่ไหน หน้าใสแค่ไหนก็อย่าไปสนใจเลยได้ไหม โสดๆ แบบนี้ไปนานๆ ก่อนสิ"

ไอ้ผมมันก็หวั่นใจ ถึงแม้จะรู้ว่าเธอเป็นคนช่างเลือก คงไม่เลือกใครง่ายๆ ล่ะมั้ง?

"มีแฟนเด็กก็ดีนะ ชีวิตจะได้ดูกระชุ่มกระชวย แต่คงเสียที่เด็กจะดูแลเราไม่ค่อยได้น่ะ" ผมก็บอกไป...

"เด็กก็ดีนะ แต่ขอไม่เลี้ยงได้ไหม ไม่มีเงิน" เธอตอบ...

อ้าว...จะเลี้ยงต้อยยังไม่ลงทุนอีกนะคนเรา...

"มีแฟนเด็กจะได้แอ๊บได้ไง จะได้ทำอะไรเด็กๆ ได้" เอ่อมันก็จริง แต่อย่ามีเลย...

"ก็ถึงวัยกินเด็กแล้วใช่ไหมล่ะ กลัวคนเค้ารู้ว่าแก่แล้ว"...ผมแกล้งตอบไป

"ยังไม่แก่ซักหน่อย แค่เรียกนะเดี๊ยวเด็กก็มา"...โอ้ย เชื่อแล้ว ไม่ต้องพิสูจน์หรอก ผมเองอยากจะบอกใจจะขาดว่าต่อให้หน้าแก่ จะอ้วนกลมกว่านี้ผมก็ยังรักนะ อิอิ ^^"

บทสนทนามาถึงเรื่องมือถือเพราะเธออยากได้ BB ... ท่าทางเห็นคนอื่นใช้ใจเลยอยากจะเปลี่ยนจาก iPhone สินะ ดูท่าจะสับสนมากมาย ผมล่ะอยากเห็นสภาพเธอตอนนี้จัง คงจะน่าเอ็นดูพิลึกเลย...

"รู้ได้ไงว่าใช้ iPhone น่ะ ไม่เคยบอกเลยนะ" เอาแล้วไง...แล้วตูจะบอกยังไงดีล่ะ?

"ก็ใน FB ไงเวลาเขียนจาก iPhone มันก็จะบอกว่าข้อความ FB โดย iPhone ไง" ก็แถไปได้เรา..แหม ฉลาดจริงๆ...

"อ้อ" เธอตอบ...

รอดตัวไปเรา - -" จะให้บอกได้ไงว่า ติดตามดูตลอดน่ะแหละ...

"แม่รู้นะแม่ต้องด่าแน่ๆ เลย...ใช้เงินเก่งแต่ไม่รู้จักเก็บ" มันก็ธรรมดาแหละครับ ก็ใช้เก่งเป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่นะ..แต่เรื่องนี้มันทำให้ผมต้องคิดย้อนถึงตอนสมัยยังเรียนที่เดียวกันทุกทีเลย..

"จะมีปัญญาเลี้ยง...เหรอ?" เพื่อนเธอแอบกัดผมผ่านสายสืบของผมเอง..

"เอ่อ จริงว่ะ ตูไม่มีปัญญาตอนนี้" ผมละละเหี่ยใจจริงๆ... T-T แต่ถ้ามีปัญญาผมไม่ปล่อยให้เธอรอดมือไปได้หรอกนะ ฮี่ๆๆ...

สุดท้าย...ผมอยากบอกเธอเหลือเกินว่า...

"รู้ไหม? ว่าผู้หญิงน่ะ ถ้าสวยก็มักจะไม่ฉลาด ส่วนผู้หญิงที่ฉลาดก็มักจะไม่สวย แต่สำหรับเธอเป็นข้อยกเว้นนะ"

อิอิ ^^