Sunday, May 20, 2007

ผมไม่ชอบการถูกเปรียบเทียบเลย...

ผมไม่ชอบการถูกเปรียบเทียบเอาซ่ะเลย ไม่ว่าจะทางตรง ทางอ้อม หรือทั้งสองทางเลย...

วันนี้ผมโทรกลับบ้านไปหาแม่มา โทรไปหาแม่เพราะทั้งคิดถึงและเป็นห่วง แม่ผมก็ต้องทำงานหนัก ทั้งที่อายุก็มากล่ะ คนใช้ก็ไม่รู้จะดูแล เป็นมือเป็นเท้าให้แม่ผมดีไหม ก็เลยโทรไปถาม กลัวแม่จะอยู่ไม่สบาย...

แต่ที่แย่ และเกือบทุกที แม่มักจะพูดถึงลูกคนนู้นคนนี้ ให้ฟังอยู่เรื่อย ผมรู้ว่าแม่ไม่ได้ตั้งใจจะพูด จะเปรียบเทียบ ว่าคนนู้น คนนี้ ทำไมเค้าไปได้ดี ทำไมเค้าเก่ง ทำไมผมถึงเป็นยังงี้ อะไรประมาณนั้น

อย่างคราวนี้ก็พูดถึงเพื่อนผมที่กำลังเรียน โทควบเอกอยู่ที่ ม.นเรศวร แม่บอกว่าเค้าโชคดีจัง ที่ได้ทุนเรียน จบเอก จบมาก็เป็นอาจารย์ แม่ผมก็อยากให้ผมทำงาน มีชื่อเสียงเพื่อแม่จะได้เอาไปคุยกะคนอื่นๆ ได้บ้าง...แต่ใจลึกๆ ของผมรู้สึกกดดันนะ กดดันกับการถูกคาดหวัง...

เพื่อนผมคนนี้สมัยเรียน ม.ปลาย เก่งคู่คี่สูสี กับผมมากที่เดียว แถมยังเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก และนิสัยก็ดีมากเช่นเดียวกัน สุดท้ายก็เอนทรานซ์เข้าเรียนที่ ม.เชียงใหม่ ได้เหมือนกับผม แถมอยู่ห้องเดียวกันเป็นรูมเมทกันด้วย...

แต่กลับกัน ตอนมาเรียนมันไม่ขยันเลย โดดเรียนประจำ นอนตื่นซ่ะเย็น เล่นเกม แบบไม่สนใจเรียน เกรดเทอมแรกของมันได้ 1.5 เกือยจะรีไทร์เลย ส่วนผมได้ 2.8 ก็ยังแย่สำหรับผมเลย ดีว่าผมสำมะเลเทเมา ไม่มาก ยังสนใจอยู่ สุดท้ายมันก็เลือกที่ไปจะไปเรียนปี 1 ใหม่ที่ ม.นเรศวร กับคณะเดิม...

แต่ที่น่าเสียใจคือ มันบอกไว้กับใครไม่รู้ จำไม่ได้ว่า ที่นี่ ไม่ดี เพื่อนๆ ไม่ดี สภาวะแวดล้อมไม่ดี ทำให้มันต้องเป็นแบบนี้ แต่ตอนนั้น มันไม่ได้ดูตัวเองเลย ทั้งๆ ที่ผม และรุ่นพี่ คอยช่วยกันขนาดไหน...แต่ช่างเถอะครับ เห็นเพื่อนได้ดี ผมก็ดีใจด้วย มันไปเรียนที่นู้น มีเพื่อนดีๆ คอยดึง สุดท้าย จบตรีได้เกียรตินิยมอีกตะหาก...

แต่ผมกดดัน กดดันว่าต้องทำอะไรๆ ให้ได้ดีๆ ต้องเชิดหน้าชู ตาพ่อแม่ วงศ์ตระกูลให้ได้ ... อะไรคือคำตอบของทางออกนี้ล่ะ ทางออกก็คือ ผมตัดสินใจจะเรียนต่อ เพื่อเป็นอาจารย์นี่ไง อาชีพที่มีเกียรติ พอที่พ่อ แม่ผมจะเอาไปคุยได้...

ผมอยากเกิดเป็นผู้หญิงจริงๆ จะได้ไม่จำเป็นต้องยุ่ง ต้องสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใช้ชีวิตตามที่ต้องการ เรียนจบ ทำงาน มีลูก ดูแลครอบครัว รู้สึกสบายดีจัง

ตั้งแต่เด็ก เหมือนกับที่ผมเคยเล่าไปบ้างแล้ว ผมกดดันตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นผู้ชาย คนเดียว ของสายตระกูล ของผม ยังมีอีกหลายสาย ที่เค้ามีหน้ามีตาในสังคม แต่สายของผมไม่ค่อยมีหน้ามีตาเท่าไหร่ ผมไม่ค่อยได้รู้จักกับ ผู้หลักผู้ใหญ่สายอื่นๆ มากนัก นี่คงเป็นจุดบอดของผม ที่ไม่อาจใช้ความมีชื่อเสียงของตระกูลผมได้...

ผมรับปากแม่ได้ว่า จะตั้งใจเรียนแน่นอน แต่เรื่องทุน ผมไม่รับปาก เพราะมันเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาส แต่ผมจะตั้งใจเรียน ให้ดีที่สุด ไม่ทำให้แม่ผิดหวังแน่นอน...รู้ไหมครับว่าทำไมแม่ผมถึงรักผมมาก นอกจากจะเป็นลูกชายแล้ว ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยทำให้แม่ ครอบครัวต้องผิดหวังเลย ไม่เคยต้องทำให้แม่สียใจ แม้ว่าบางทีผมอาจจะไม่ได้ทำอะไรๆ ให้มันสุดยอดในสายตาแม่ แต่ผมก็ไม่เคยทำอะไรให้เสื่อมเสีย...

อาจเป็นเพราะภายนอกผมเป็นคนนิ่งๆ เก็บกด แม่ผมเลยมองว่าผมเป็นคนเฉื่อยชา ไม่เอาอะไร แต่จริงๆ แล้วผมกดดัน ผมนึก ผมคิดไว้ตลอดอยู่แล้วว่าควรทำยังไง ใจนึงก็อยากที่จะทำให้พ่อแม่ภูมิใจ อีกใจนึงผมก็อยากจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตามที่ผมอยากให้เป็นไปวันๆ...ผมเลยกลายเป็นคนที่ทำอะไรได้ครึ่งๆ กลางๆ ตลอด แล้วผมควรจะทำยังไงดีล่ะ ผมก็คิดไม่ออก...

แต่ตอนนี้ที่ผมทำให้แม่ได้ ก็คือ ตั้งใจเรียน แล้วหาทุนไปเรียนเอกให้ได้ เพื่ออนาคตของผมเอง และของพ่อแม่ด้วย...

คราวนี้คงเข้าใจผมแล้วใช่ไหม ว่าทำไมผมถึงตั้งเป้าให้ตัวเองต้องได้ 4. ต้องหาทุนไปเรียนเอกให้ได้...

No comments: